December 5, 2025

สัปดาห์ที่ 2 : อย่าหยุดทำดี แม้โลกไม่เป็นมิตร

วันจันทร์ที่ 8  ธันวาคม 2024

บทภาวนา ” อย่าหยุดทำดี แม้โลกไม่เป็นมิตร 

บทอ่านจากพระคัมภีร์  กาลาเทีย 6:7-10


กดเพื่อฟัง>> เสียงบทภาวนา “ อย่าหยุดทำดี แม้โลกไม่เป็นมิตร “

ในโลกที่ทุกคนต่างให้ความสนใจที่คุณค่าภายนอกและตัดสินจากภาพลักษณ์ที่มองเห็น
จึงทำให้มองข้ามตัวตนที่แท้จริงภายในไป แต่สิ่งที่มองเห็นอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงเสมอไป
ดังเช่นเรื่องราวของชาวสะมาเรียที่ถูกบันทึกไว้ในพระกิตติคุณลูกา ชาวสะมาเรียได้สำแดงความรักที่ยิ่งใหญ่
ต่อชายคนหนึ่งที่ถูกโจรปล้น และทำร้ายถูกปล่อยไว้ในสภาพที่เกือบจะตายแล้ว เขาช่วยเหลือรักษาพยาบาล
ชายผู้บาดเจ็บและส่งตัวไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย พร้อมดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างในการช่วยเหลือชายคนนี้
เขาทำในสิ่งนี้ด้วยความรักความเมตตามีคุณค่าต่อชายที่บาดเจ็บคนนั้น ทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับปุโรหิตและคนเลวี
ก่อนหน้านี้ที่ได้พบเจอชายผู้บาดเจ็บแต่กลับเดินเลยผ่านไปไร้การช่วยเหลือใดๆ เบื้องหลังทางสังคมของชาวยิว
ไม่เป็นมิตรกับสังคมของชาวสะมาเรียเลย ชาวยิวจะมองว่าชาวสะมาเรียเป็นคนต่างชาติที่จะไม่ให้คุณค่า
และไม่คบหาสมาคมด้วย แต่สิ่งนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชาวสะมาเรียคนนี้หยุดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งได้

เรื่องราวของชาวสะมาเรียได้สะท้อนโลกและสังคมในปัจจุบันที่ผู้คนต่างตัดสินและให้คุณค่า
จากรูปลักษณ์ภายนอก ให้คุณค่ากับวัตถุสิ่งของเหนือกว่าคุณค่าจิตใจและความเป็นมนุษย์ ความรักและเมตตาของผู้คนจืดจางลง
โลกเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความรุนแรง ตอบสนองกันด้วยความเห็นแก่ตัวมากขึ้น แต่พระวจนะกล่าวและหนุนใจ
ให้เราในฐานะผู้เชื่อให้มีความรักต่อกันและกัน “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว
เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำดีต่อทุกคนและเฉพาะอย่างยิ่ง
ต่อคนที่เป็นสมาชิกของครอบครัวแห่งความเชื่อ” (กาลาเทีย 6:9-10) เราสามารถสำแดงความรักของพระเจ้า
ท่ามกลางโลกที่โหดร้าย โดยการดูแล เอาใจใส่ ให้การช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในความทุกข์ยากลำบาก ขัดสน
และต้องการความหวังในชีวิต แม้เราอาจจะไม่รู้จักกับคนเหล่านั้น แม้เราจะไม่ได้รับอะไรเป็นการตอบแทน
และแม้จะไม่มีใครเห็น การมีชีวิตเป็นเกลือและแสงสว่าง การทำความดีเล็กๆน้อยๆของเราจะช่วยให้เขา
จะได้รู้จักกับความรักของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น

ช่วงเวลาที่พระเยซูมาบังเกิดมีเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจและเศร้าเป็นอย่างมาก บันทึกไว้ ในมัทธิว 2:1-18
โดยมีนักปราชญ์จากตะวันออก (พวกโหราจารย์) ได้ติดตามดาวประหลาดมาจนถึงกรุงเยรูซาเล็ม
ถามว่า “กษัตริย์ของพวกยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ไหน?”คำถามนี้ทำให้กษัตริย์เฮโรด ซึ่งปกครองในแคว้นยูเดีย
ในเวลานั้น หวาดกลัวว่าอำนาจของตนจะสั่นคลอน จึงเริ่มวางแผนฆ่าพระเยซู โดยกษัตริย์เฮโรดได้มีคำสั่ง
ทั่วเมืองเยรูซาเล็่่มให้ประหารทารกตั้งแต่อายุ 2 ขวบลงมา จากการคำนวณอายุของเด็กตามเวลาที่นักปราชญ์
เห็นดวงดาวนั้นปรากฏขึ้น แต่พระเจ้าทรงปกป้องโดยส่งให้ทูตสวรรค์เตือนโยเซฟ ให้พานางมารีย์และพระกุมาร
เยซูหนีไปยังประเทศอียิปต์จึงได้รับความปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง
ผู้คนต่างรอคอยพระเมสสิยาห์  พระเยซูได้มาบังเกิดอย่างมีความหวังสำหรับผู้ที่รอคอยพระองค์
พระองค์นำสันติสุขมาให้กับผู้คนมากมาย พระองค์ปรนนิบัติรับใช้ผู้คนด้วยความรักและด้วยความถ่อมใจ
และการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระองค์มีความหมาย เพื่อรับความผิดบาปของมนุษย์ทุกคน
เพื่อเราทั้งหลายจะมีชีวิตใหม่ในพระองค์ เพื่อนำการคืนดีระหว่างมนุษย์กับพระเจ้ากลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกครั้ง

 ให้เราสำแดงความรักแก่ผู้อื่นตามแบบอย่างที่พระเยซูได้สำแดงแก่เรา


หัวข้ออธิษฐานสำหรับวันนี้

  1. อธิษฐานเผื่อผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ที่จะได้รับความรัก ความเมตตา และการช่วยเหลือ
  2. อธิษฐานเผื่อการสำแดงชีวิตของคริสเตียนต่อผู้ที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า การเป็นพระพรต่อชุมชน สังคม ประเทศชาติ
Hot industry news & trends

More useful articles