February 24, 2024

สัปดาห์ที่ 3 : บทภาวนาเทศกาลเข้าถึงธรรมและอีสเตอร์ 2024

( สัปดาห์ที่ 3 : ครอบครัวใหม่… ในพระคริสต์)

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ – วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2024 

———————————————————————————————————————

กดเพื่อฟัง>> เสียงบทภาวนา “ครอบครัวใหม่… ในพระคริสต์ “

ข้อพระคัมภีร์สำหรับการใคร่ครวญ

  • วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2024 : 1 โครินธ์ 12 : 12 – 27 : อวัยวะในพระกายพระคริสต์
  • วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2024 : 2 โครินธ์ 5 : 14 – 19  : ชีวิตที่ถูกสร้างใหม่
  • วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2024 : กาลาเทีย 6 : 1 – 10 : จงช่วยรับภาระของกันและกัน
  • วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 : เอเฟซัส 4 : 2 – 7 : ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
  • วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2024 : เอเฟซัส 4 : 11 – 16 : การเติบโตและบทบาทที่ต่างกัน
  • วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2024 : เอเฟซัส 4 : 25 – 32 : วิถีชีวิตใหม่
  • วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2024 : โคโลสี 3 : 5 – 17 : ชีวิตใหม่ในพระคริสต์

บทความส่วนหนึ่งจากหนังสือพิมพ์ สหกรณ์ ปีที่ 54 ฉบับที่ 1 ม.ค.-มี.ค. 37 หน้า 8-11 กล่าวถึงเรื่อง ครอบครัวที่มีความสุข ไว้ว่า
จริงๆ แล้ว ทุกคนก็อยากมีครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันทั้งนั้น ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขได้ จากการสังเกตและประสบการณ์ ความสุขในครอบครัว
น่าจะประกอบด้วยเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

1) ครอบครัวที่มีความสุข คือ สุขภาพของสมาชิกในครอบครัวจะต้องดี
การมีสุขภาพดีต้องประกอบด้วยการรักษาสุขภาพ และการรักษาสุขภาพคือ ต้องสร้างนิสัยดีทางสุขภาพ เริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์
ระมัดระวังโรคภัยไข้เจ็บอันอาจป้องกันได้ มีการออกกำลังกายตามสมควรทุกคนได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ

2) ครอบครัวที่มีความสุข คือ จะต้องมีเวลาให้กันและกัน
สามีภรรยาที่ต่างคนต่างมีภาระและกิจกรรมของตัวเอง มีความสนใจไปคนละอย่างคงจะหาความสุขด้วยกันยากในฐานะเป็นครอบครัว
การให้เวลากับลูกๆ ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่จึงควรหาเวลาให้กับลูก พ่อแม่ลูกควรมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมที่ทำร่วมกันจะช่วยเป็นพาหะ
สร้างความใกล้ชิดสนิทสนมอันเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่นำไปสู่ความสุข

3) ครอบครัวที่มีความสุข คือ ครอบครัวที่สื่อสารกันด้วยความเข้าใจ
สมาชิกในครอบครัวต้องสื่อสารกันตลอดเวลา จึงต้องมีความเข้าใจในสาระให้ตรงกัน และต้องสื่อความรู้สึกได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
คือ การพูดที่เข้าใจกันไปคนละอย่าง หรือพูดคลุมเครือฟังไม่ชัดทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ บางทีเรื่องเล็กน้อย กลายเป็นเรื่องเถียงทะเลาะกันใหญ่โต
การสื่อสารความรู้สึกก็เป็นเรื่องสำคัญ การเก็บความรู้สึกแล้วอ้ำอึ้งไม่พูดไม่จาเกี่ยวกับปัญหาจะทำให้ปัญหาเพิ่มขึ้นและสะสมไปเรื่อยๆ
ทางที่ดีควรหาหนทางพูดกันให้รู้เรื่อง โดยพยายามฟังกันและกันไปด้วยมิใช่ว่าจะพูดข้างเดียวโดยไม่ฟังใครเลย

4) ครอบครัวที่มีความสุข คือ ครอบครัวที่จัดการเรื่องการเงินได้
การดำรงชีวิตในลักษณะครอบครัวที่มีความสุขคงจะต้องอยู่ในสภาพการจัดการเศรษฐกิจดีระดับหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่คือ
ไม่รู้จะจัดการเรื่องเงินอย่างไร ควรมีการแบ่งแยกบัญชีให้ชัดเจน ไม่ว่าจะมีเงินมากหรือน้อยเพียงไร จะต้องปรึกษาหารือทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน
พูดจาตกลงกันในเรื่องการจัดการเรื่องเงิน ว่าควรใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นและสำคัญใดสำหรับครอบครัว

5) ครอบครัวที่มีความสุข คือ ครอบครัวที่สามารถแบ่งความรับผิดชอบได้
การอยู่ร่วมกันนั้น สมาชิกภายในครอบครัวแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบเรื่องของตัวเองส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่ง คือความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
ลูกๆ ต้องถูกสอนและฝึกให้ดูแลตัวเองได้ รวมทั้งดูแล ข้าวของของตนเอง และสามารถรับผิดชอบเรื่องของส่วนรวมได้ด้วย
สามีภรรยาเองก็มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ สมัยนี้ผู้หญิงทำงานนอกบ้านมากขึ้น สามีจึงควรต้องช่วยแบ่งเบาภาระในบ้าน
การช่วยเหลือกันและกันในครอบครัวจะช่วยให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

6) ครอบครัวที่มีความสุข คือ ครอบครัวที่อยู่ด้วยกันบนพื้นฐานของความรักและการรู้จักให้อภัย
ความรักกันและกันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ความรักกันและทำให้เราเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ทำให้เราอยากให้เวลากันและกัน
ทำให้เราอยากพูดกันรู้เรื่อง เข้าใจอารมณ์กันและกัน ความรักทำให้เราให้อภัยกันและกันได้เช่นกัน
เมื่อมีเรื่องที่ทำให้มีปัญหาและทำให้เรามีกำลังใจในการแก้ปัญหานั้นๆ ด้วย ความรักทำให้เกิดความอดทน และความรักทำให้เกิดการพัฒนาและสร้างสรรค์

7) ครอบครัวที่มีความสุข คือ ครอบครัวที่มีสมาชิกในครอบครัว
ใช้ความพยายามที่จะให้ชีวิตครอบครัวเป็นสุข
คำที่สำคัญ คือ “ความพยายาม” ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
แต่ทุกคน โดยเฉพาะสามี-ภรรยา หรือ พ่อแม่ ต้อง “พยายาม” ทำให้เกิดขึ้นเหมือนกิจการที่ต้องลงทุนจึงจะได้กำไรกับครอบครัวก็ต้องลงทุนเหมือนกัน
การลงทุนในครอบครัว ก็คือ การสร้างความตระหนักในความสำคัญของครอบครัว การใช้เวลา การใช้สติปัญญาและความสามารถและการวางแผนที่จะให้บังเกิดผล
ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเกินไป 

จากบทความข้างต้นนั้น ทำให้เห็นหลักการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัว ซึ่งเราทุกคนล้วนอยากมีครอบครัวในอุดมคติ ครอบครัวที่อยากจะร่วมสร้าง
อยากให้เป็นดั่งที่เราคาดหวังไว้ อยากให้ครอบครัวมีความสุข รัก ดูแล เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน แต่หากย้อนกลับมามองดูสภาพครอบครัวของเราในปัจจุบัน
อาจจะไม่สอดคล้องกับบทความข้างต้น และอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เราวาดฝันไว้ เราอาจจะกำลังเผชิญและอยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย
มีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวของเรา ปัญหาที่ยังค้างคาสะสม ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ไม่มีทางออก ยิ่งแย่ลงไปหากเรารู้สึกไม่อยากกลับบ้าน
รู้สึกว่าบ้านและครอบครัวเป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับเรา เป็นความจริงที่เราต้องตระหนักว่าคงไม่มีครอบครัวไหนที่จะมีความสุขและสมบูรณ์แบบในทุกด้าน

ครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ในครอบครัวของพระเจ้า แต่เมื่อเราตกอยู่ในความผิดบาป เนื่องจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้า ผลของการกระทำนั้นคือ
เราถูกตัดขาดความสัมพันธ์กับพระเจ้า ถูกแยกออกไป เราดำเนินชีวิตตามใจปรารถนา ทำสิ่งที่ไม่ได้เป็นพระประสงค์ของพระองค์
ชีวิตขาดความสุขและไม่พบสันติสุขแท้ในชีวิต เราวนเวียนกับวิธีและหนทางที่เราคิดว่าจะช่วยเราได้ แต่เราก็ยังไม่พบทางออกนั้น

          จนกระทั่งเมื่อเรายอมรับความอ่อนแอของตนเอง ยอมรับการช่วยเหลือที่มาจากพระเจ้า คือ การเชื่อและไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ เชื่อว่าพระองค์นั้น
ได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อความผิดบาปของเรา และพระองค์ทรงเป็นขึ้นมามีชัยชนะเหนือความตาย เราได้ต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิตจิตใจเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
เป็นเจ้านายในชีวิต เชื่อและไว้วางใจในพระองค์ กลับมาคืนดีมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอีกครั้ง บัดนี้เราจึงมีส่วนกลับมาสู่ครอบครัวของพระเจ้า
หรือเรียกได้ว่าเป็น ครอบครัวใหม่ในพระคริสต์ ไม่ได้หมายถึงความผูกพันกันทางสายเลือด แต่เรากำลังผูกพันกันด้วยความรักของพระเจ้า
ผูกพันกันด้วยความสัมพันธ์ที่เรามีส่วนมาร่วมสามัคคีธรรมกันที่คริสตจักร คริสตจักรก็คือ ครอบครัวใหญ่ที่มีผู้เชื่ออยู่ร่วมกัน ซึ่งหมายความว่า

เราไม่ได้อยู่เพียงลำพังอีกต่อไป เรากำลังอยู่และร่วมกันสร้างครอบครัวของพระเจ้ากับพี่น้องในความเชื่อ บนพื้นฐานของพระวจนะ

          ที่จะให้ครอบครัวนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความผูกพัน ความสุข การแบ่งปัน การเอื้ออาทร การให้อภัย การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฯลฯ
คงไม่มีครอบครัวไหนที่จะมีความสุขและสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ครอบครัวของพระเจ้าก็เช่นกัน เราแต่ละคนอาจจะไม่สมบูรณ์เมื่อมาอยู่ร่วมกัน
อาจจะมีกระทบกระทั่งกันได้บ้าง มีความคิดเห็นขัดแย้งกันบางเวลา มีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาแบบนั้น เราก็ไม่ควรแยกตัว
หรือหนีออกจากครอบครัวนี้ไป เราควรเปิดใจ ตักเตือน พูดความจริงด้วยใจรัก ไม่ตัดสินพี่น้อง สื่อสารชัดเจน ฟังและทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น
ปรับตัวเข้าหากัน หาจุดร่วมกัน ใจเขาใจเรา อยู่ร่วมกันด้วยความรักและการให้อภัยที่มาจากพระเจ้า สร้างครอบครัวของพระเจ้าให้เป็นที่ปลอดภัย (safe zone)
และน่าอยู่ ให้เป็นครอบครัวในอุดมคติที่เกิดขึ้นได้จริง

 

หัวข้ออธิษฐาน

  1. การรัก การให้อภัยซึ่งกันและกัน และการกลับมามีความสัมพันธ์และคืนดีกันอีกครั้ง ระหว่างเราและพี่น้องสมาชิก
  2. การสร้างคริสตจักรให้เป็นครอบครัวที่เปี่ยมไปด้วยความรักความผูกพันของพระเจ้า เป็นที่ที่ผู้คนอยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้
Hot industry news & trends

More useful articles